Thursday, July 8, 2010

ถ่ายภูเขา ต้อง F เท่าไหร่

สวัสดีครับ
หายไปนานเลย ไม่รู้มัวไปทำอะไร หรือไม่ได้ทำอะไร ก็ไม่รู้
กลับมารอบนี้ ก็บังเอิญว่ามีอะไรมากระตุ้นต่อมเล็กน้อย ก็เลยเขียนซักหน่อย

เรื่องที่จะเล่าถึงนี้ก็ผ่านมาซักพักนึงแล้ว ก็เหมือนเดิมครับ เจอคำถาม
"ถ่ายสิ่งนี้ ต้อง F เท่าไหร่" ที่จริงผมว่า บางท่านอาจจะเข้าใจผิดเรื่อง ปรับอะไร เพื่ออะไร
สุดท้ายทุกอย่างก็สัมพันธ์กันไปหมดอยู่ดี มาว่ากันทีละอย่างดีกว่านะครับ

อย่าง F , F-Stop หรือรูรับแสง นอกจากจะให้แสงเข้าได้มากน้อย ทำให้ภาพมืด สว่าง
มันก็จะมีผลเรื่องชัดตื้น ชัดลึกอีกด้วย ซึ่งอย่างไร ก็จะต้องไปสัมพันธ์กับ S, Speed, Shutter speed

Shutter speed ก็จะควบคุมให้แสงเข้าได้เป็นช่วงเวลา มากหรือน้อย
ผลที่ได้อย่างแรกก็คือทำให้ภาพมืด หรือสว่าง สัมพันธ์กับรูรับแสงตรงๆ
และผลอีกอย่างคือ การเห็นความเคลื่อนไหว หรือหยุดการเคลื่อนไหวในภาพ

ทีนี้มาดูว่า ถ่ายอะไร ต้องใช้ปรับอะไรเท่าไหร่
ยกตัวอย่างการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ อยู่ห่างจากตัวเรามากมาย
ดังนั้นจึงควรจะถ่ายให้ชัดลึกๆไว้ก่อน ชัดลึก ก็ต้องรูรับแสงแคบๆ
แต่ข้อจำกัดก็มีอยู่ว่า แสงต้องพอ เพราะรูรับแสงแคบ แสงจะเข้าได้น้อย
หากแสงในขณะนั้นมีน้อย ก็จะทำให้สปีดต่ำลงไปอีก อาจมีผลเรื่องมือสั่นได้อีก
ถ้าต่ำมากไป ก็คงต้องอาศัยขาตั้งกล้องช่วยครับ แต่ก็ยังมีอีกทางที่แก้ปัญหาได้
คือการเปิดรูรับแสงให้กว้างขึ้น ช่วงชัดก็จะตื้นขึ้น แต่ก็ได้สปีดกลับมาครับ

หรือตัวอย่างที่สอง การถ่ายภาพน้ำตกให้นุ่ม ขาว เป็นสาย
ปกติคือเราต้องใช้สปีดต่ำๆ ร่วมกับขาตั้งกล้องอยู่แล้ว
แต่ก็อาจมีปัญหากับสภาพแสงเช่นกัน คือถ้าบริเวณน้ำตก แสงพอประมาณ
เราก็อาจจะถ่ายได้เลย เพราะสปีดต่ำ ต้องใช้รูรับแสงแคบๆ
แต่ถ้าหากว่าแสงจัดมากๆ รูรับแสงก็อาจจะแคบสุดแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้สปีดที่ต้องการ
เราก็ต้องหา filter มาช่วยลดแสงลงเพื่อให้ได้แสงที่อ่อนลงครับ

จากที่เล่าไปคงจะพอดูออกนะครับ ปรับอะไรมีผลกับอะไร
นี่ยังไม่นับเรื่อง การชดเชยแสงอีกนะครับ ทำไมต้องชดเชย
ไปปรับเอาในคอมฯไม่ง่ายกว่ารึ นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องเล่ากันยาวๆครับ

ไว้จะมาเล่าอีกนะครับ
วันนี้ปวดเอวละ แค่นี้ก่อนละกัน
สวัสดีครับ
(ตัวอย่างรูปก็ไม่มีเนาะ ไว้จะหามาเพิ่มให้นะครับ)